เมื่อพูดถึง เจนเซน หวง (Jensen Huang) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Nvidia บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก หลายคนอาจไม่ทราบว่าช่วงหนึ่งในวัยเด็กของเขาเคยผูกพันกับประเทศไทย เจนเซน หวง เกิดที่เมืองไถหนาน ประเทศไต้หวัน ก่อนที่ครอบครัวของเขาจะย้ายมาประเทศไทยในปี พ.ศ. 2515 (ค.ศ. 1972) เมื่อเขาอายุเพียง 5 ขวบ
ชีวิตในประเทศไทย: ความทรงจำในวัยเด็ก
ครอบครัวของเจนเซนย้ายมาประเทศไทยตามพ่อของเขาซึ่งมาทำงานในโรงกลั่นน้ำมัน ช่วงเวลานั้นเป็นยุคที่ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง เจนเซน หวง ใช้เวลา 4 ปี ในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 ถึง พ.ศ. 2519 (ค.ศ. 1972–1976) ก่อนที่ครอบครัวจะส่งเขาและพี่ชายไปสหรัฐอเมริกาเพื่อความปลอดภัยและการศึกษาที่ดีกว่า
เจนเซนเคยเล่าถึงประสบการณ์วัยเด็กที่มีทั้งความสนุกสนานและความซน เช่น การทดลองถอดชิ้นส่วนไฟแช็กและเล่นกับไฟบนสระน้ำ เรื่องราวเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความอยากรู้อยากเห็นและความคิดสร้างสรรค์ของเขาตั้งแต่อายุยังน้อย
ช่วงเวลาทางการเมืองที่ตึงเครียดในไทย
ระหว่างที่เจนเซนอาศัยอยู่ในประเทศไทย ประเทศไทยเผชิญกับความไม่มั่นคงทางการเมือง โดยเฉพาะ เหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ซึ่งประชาชนและนักศึกษาลุกฮือต่อต้านรัฐบาลเผด็จการของจอมพลถนอม กิตติขจร เหตุการณ์นี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสำคัญในระบอบการปกครอง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2518–2519 ประเทศไทยยังคงเผชิญกับความไม่สงบทางการเมือง มีการเลือกตั้งและการเปลี่ยนรัฐบาลหลายครั้ง ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519
ด้วยสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ครอบครัวของเจนเซนตัดสินใจส่งเขาและพี่ชายไปอยู่กับลุงในรัฐเคนตักกี้ สหรัฐอเมริกา เพื่อให้ได้รับการศึกษาที่มั่นคงและปลอดภัย
จุดเริ่มต้นของความสำเร็จระดับโลก
แม้ว่าชีวิตในประเทศไทยจะจบลงในวัยเด็ก แต่ประสบการณ์ในช่วง 4 ปีนั้นก็อาจมีส่วนหล่อหลอมตัวตนของเจนเซน หวง การย้ายไปอเมริกาและการเริ่มต้นในโรงเรียนประจำที่เข้มงวด ทำให้เขาเรียนรู้การปรับตัวและการพยายามอย่างหนักเพื่อความสำเร็จ
จากเด็กชายผู้เคยถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียน เจนเซน หวง กลายเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีระดับโลกที่พัฒนา Nvidia ให้เป็นผู้นำด้านการผลิตชิปประมวลผล และผลักดันเทคโนโลยี AI ให้ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
ประเทศไทย: ความทรงจำและความหวังในอนาคต
แม้จะไม่มีการกล่าวถึงประเทศไทยในชีวิตของเจนเซน หวงอย่างชัดเจนในช่วงหลัง แต่ประเทศไทยก็เป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางชีวิตของเขา และหาก Nvidia เลือกลงทุนในไทยในอนาคต มันอาจเป็นบทใหม่ที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกกับประเทศที่เคยเป็นบ้านของเขาในวัยเด็ก.